ฟาร์มแรกที่เราจะไปเข้าไปเยี่ยมชม
ก็คือฟาร์มของน้องศรัญญู(น้องต๊อก) หรือสุภาศรีฟาร์มเห็ด นะครับ ฟาร์มน้องใหม่ที่เพาะเห็ดมาได้ประมาณ
3 ปี แต่ก็ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายตามที่น้องเค้าตั้งไว้ ซึ่งน้องต๊อกก็พร้อมที่จะมาร่วมแบ่งปัน
แนวคิดของคนรุ่นใหม่ ให้กับชุมชนคนทำเห็ดได้อ่านกันครับ
มาดูประวัติของเจ้าของฟาร์มกันก่อนนะครับ
เจ้าของฟาร์มเห็ดแห่งนี้ ชื่อน้องศรัญญู (น้องต๊อก) นะครับ อายุ 28 ปี
ฟาร์มตั้งอยู่ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
น้องจบคณะนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ ก่อนหน้านี้เคยทำงานประจำ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งน้องก็มีแนวคิดที่อยากจะเพาะเลี้ยงเห็ด
เลยตัดสินใจเริ่มลงมือทดลองเพาะเห็ดจากห้องน้ำเล็ก ๆ จนวันหนึ่งรายได้จากเห็ดสามารถทำให้น้องต๊อกออกจากงานประจำเพื่อมาเพาะเห็ดอย่างเต็มตัวได้
เราลองมาดูพร้อมกันครับ ว่าจากคนทำงานประจำซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายการเกษตร สามารถพัฒนาตัวเองจนเป็นเกษตรกรเต็มตัว
ถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร
จากนี้จะเป็นบทสนทนาที่พูดคุยกันเหมือนเป็นพี่น้อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับชุมชนคนรักเห็ด หรือเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย
ๆ คนที่สนใจอยากจะ ทำฟาร์มเห็ดนะครับ
HugHed : เริ่มแรกเลยนะครับว่า
ทำไมถึงตัดสินใจที่จะทำฟาร์มเห็ด มีแรงบันดาลใจอะไรรึป่าวที่ตัดสินใจทำเห็ด ? เห็นคนอื่นเค้าทำกัน
?
น้องต๊อก (เจ้าของฟาร์ม) : เริ่มแรกผมอยากทำเป็นอาชีพเสริมเฉย
ๆ ครับ
เพราะก่อนหน้านี้ผมก็ทำงานประจำอยู่แล้ว แต่เงินเดือนที่ได้
ทำมาหลายปีก็อยู่ที่ประมาณ 15000 บ. งานประจำที่ทำมันก็พออยู่ได้ครับ
เงินไม่เยอะซักที ฮา... อีกอย่างพอดีแม่มีแผงผักที่ตลาด
เลยคิดว่าไม่กลัวเรื่องตลาดครับ เพราะบางที่เขาต้องวิ่งหาตลาด เราก็ทำส่งให้แม่อย่างเดียว
คิดเล่น ๆ แค่นั้นครับ
HugHed :
เพาะเห็ดอะไรบ้างครับ และเหตุผลที่เลือกคืออะไรครับ?
น้องต๊อก (เจ้าของฟาร์ม) : เพาะเห็ดนางรมฮังการีอย่างเดียวครับ ศึกษาดูแล้วมันเป็นเห็ดที่เลี้ยงง่ายครับ
ช่วงปีแรก ประมาณ ปี 54 ครับ
ไม่มีโรงเรือนครับ แต่ใช้ห้องน้ำแทน ก็เริ่มเพาะในห้องน้ำก่อน
ส่วนก้อนเห็ดก็ศึกษาทางอินเตอร์เน็ต หาซื้อก้อนที่ถูกที่สุด ไปได้ที่ลำพูนครับ
ก้อนเห็ดตกอยู่ก้อนละ 5 บาท ซื้อมา 500 ก้อน ก็ลงทุนไป
2,500 บาท
HugHed : ตอนนั้นน้องนางรมฮังการีเป็นยังไงบ้าง
น้องออกดอกดีมั้ย?
น้องต๊อก (เจ้าของฟาร์ม) : ออกครับ!!!
ช่วงนั้นคิดแล้วขายได้ประมาณ 4000 บาท (จาก 2,500 บาท) เก็บเงินลงทุนซื้อก้อนเห็ดมาเพิ่ม 1000 ก้อน ตอนนั้นห้องน้ำก็เริ่มเต็มแล้วครับ
ไม่ใช่ส้วมเต็มนะครับ 555 เดือนถัดมาเลยตัดสินใจทำโรงเรือนเห็ดเพิ่ม
โดยเก็บเงินเดือนจากงานประจำ ซื้อก้อนลงทุนเพิ่มอีก 5000 บาท
และตัดสินใจทำโรงเรือนเพิ่ม
HugHed : สร้างโรงเรือนเพิ่มตอนนั้นสร้างเป็นแบบไหนครับ?
น้องต๊อก (เจ้าของฟาร์ม) : โรงแรกที่สร้าง
ขนาดประมาณ 2*4 เมตร ใส่ก้อนเห็ดได้ 2000 ก้อน ครับ
ตอนนั้นใช้หญ้าคามุงหลังคา แต่มีปัญหาความสะอาดและเรื่องอายุการใช้งานที่สั้น
ต้องเปลี่ยนบ่อย อีกเรื่องคือแมลงหวี่ชอบมาทำรังที่คา ห้อยลงมาเป็นสายเลย 555
จากปัญหาที่เจอเลยตัดสินใจเริ่มถมที่
สร้างเพิ่มอีกโรงเรือน ในปีที่ 2 แล้วปรับปรุงโรงเรือนโดยใช้เมทัลชีทมาทำหลังคาแทนครับ
และใช้แสลน ทำเป็นผนัง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีครับ
หลังจากนั้นไม่นานฟาร์มที่เราซื้อก้อนเห็ดได้เพิ่มราคาก้อน
จากก้อนละ 5 บาท เป็น 6 บาท ผมเลยมาคิดกับแฟน เฮ้ย!! ราคาของก้อนน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ แน่ จึงได้ตัดสินใจทำก้อนเองในปีที่ 2 โดยใช้เตา 200 ลิตรเพื่อนึ่งก้อนเห็ด
เราเรียกกันว่าเตานึ่งลูกทุ่งครับ
แล้วผมก็สร้างโรงบ่มก้อน เพิ่มอีก หมดไปหมื่นกว่าบาท ใช้ไม้เก่า
เป็นไม้บ้านตา หลังคาโรงครัว เลยมีดำ ๆ
ติดอยู่ครับ เราเอาของที่พอใช้ได้มาทำ ประหยัดงบครับ
HugHed : ตอนนี้ใช้วิธีไหนในการเพิ่มความชื้นให้กับโรงเพาะเห็ดบ้างครับ
แล้วก็เก็บเห็ดเวลาไหนบ้าง?
น้องต๊อก (เจ้าของฟาร์ม) : ในช่วงเริ่มแรก รดน้ำโดยใช้สายยางรด
ส่วนใหญ่รดน้ำ เช้า เย็น ครับ หลังจากเก็บเห็ดเสร็จ เห็ดเก็บวันละสองครั้ง ประมาณ 6 โมงเช้า
สี่โมงเย็นเก็บอีกรอบ แต่ตอนนี้ มีแผนว่าจะรดน้ำด้วยวิธีการใช้หัวมินิสปริงเกอร์ครับ
HugHed : ตั้งแต่เริ่มทำฟาร์มมาพบปัญหาอะไรบ้างครับ
แล้วแก้ไขยังไง?
น้องต๊อก (เจ้าของฟาร์ม) : ปัญหาเรื่องแรก
คือการนึ่งก้อนเห็ดครับ พบว่ามีเชื้อราเกิดในก้อนเห็ด ทำให้เชื้อเห็ดไม่เดิน
คิดว่าน่าจะเป็นจากขั้นตอนการนึ่งก้อนเห็ดที่ฆ่าเชื้อในก้อนเห็ดไม่เพียงพอ
โดยตอนแรกนึ่งก้อนเห็ดเป็นเวลา 5 ชม. หลังจากการนึ่งแล้วพักหนึ่งพบว่ามีเชื้อราเกิดขึ้นในก้อนเห็ดบางก้อน
ผมจึงลองแก้ปัญหาโดยเพิ่มเวลาในการนึ่งเป็น 7 ชั่วโมง
ผลที่ได้ก็น่าพอใจครับ ไม่พบก้อนเสียจากการติดเชื้อราอีกเลย
ปัญหาที่สอง เรื่องหนอนแมลงหวี่กัดกินเห็ด โดยในช่วงที่เปิดดอกเห็ด
แมลงหวี่จะมาวางไข่ที่เห็ด แล้วทำให้เกิดหนอนแมลงหวี่กัดกินเห็ด
ผมเลยแก้ปัญหาโดยการพ่นจุลินทรีย์บาซิลลัส ธูรินจิเรนซีส ให้ทั่วโรงเรือนครับ
สิ่งที่น้องต๊อกเจ้าของฟาร์มนี้ทำให้พวกเราได้เห็น
ก็คือ ความตั้งใจของเจ้าของฟาร์มที่กล้าทำ กล้าคิด ในสิ่งใหม่ คิดแล้วลงมือทำ
ไม่กลัวปัญหาที่จะต้องเจอ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลาย ๆ คนนะครับ ใครอยากทำอะไรก็รีบลงมือทำเลยครับ
รีบทำในสิ่งที่อยากทำครับ รับรองความฝันที่เราตั้งใจไว้ ไม่ไกลเกินจริงแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิเคราะห์โรงเรือน สุภาศรีฟาร์ม
สนใจติดต่อสุภาศรีฟาร์มเห็ด
- เบอร์โทร. 084-501-9381 (ต๊อก)
- ที่อยู่ 14 หมู่ 11 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิเคราะห์โรงเรือน สุภาศรีฟาร์ม
สนใจติดต่อสุภาศรีฟาร์มเห็ด
- เบอร์โทร. 084-501-9381 (ต๊อก)
- ที่อยู่ 14 หมู่ 11 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่