สวัสดีครับ ต้องออกตัวก่อนเลยว่า จริงๆ ปรีชาฟาร์มมีโรงเรือนที่ทางทีมงานสนใจจะเก็บข้อมูลก็คือโรงเรือนกึ่งถาวรที่ปรีชาฟาร์มใช้เปิดดอกเห็ดหอมแต่ว่า ในขณะที่เราได้เข้าไปติดต่อพี่แอ๋ม เจ้าของปรีชาฟาร์ม เป็นเวลาที่โรงเรือนกึ่งถาวรยังไม่ได้ทำการเปิดดอกครับ คือเป็นช่วงที่ใช้โรงเรือนในการบ่มก้อน ซึ่งเห็ดหอมที่ทำกันทั่วไปเวลาที่ใช้ในการบ่มก็อยู่ที่ประมาณ 5 เดือน T.T ถ้าถึงเวลาที่โรงเรือนกึ่งถาวรได้ทำการเปิดดอก ทางทีมงานก็คงต้องขอพี่แอ๋มเข้าไปเก็บข้อมูลอีกครั้ง ขอขอบคุณพี่แอ๋มล่วงหน้าเลยครับ แต่ในครั้งนี้เราจะไปดูโรงเรือนคา ของปรีชาฟาร์มที่กำลังทำการกระตุ้นดอกเห็ดหอม เป็นโรงเรือนที่เห็นตามภาพแรกเลยครับ
วัสดุของโรงเรือนนี้เป็นคาทั้งโรงครับ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า โรงเรือนมีความสูงน้อยกว่าโรงเรือนของป้าแดง ที่ครั้งที่แล้วเราได้ไปวิเคราะห์โรงเรือนกันมา
เรามาเริ่มดูวันที่ 7 กันยายน 2558 กันก่อนเลยครับ ถ้าดูจากกราฟแสดงความชื้นในวันนี้ จะเห็นว่าในโรงเรือน ไม่มีลักษณะที่ความชื้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือน่าจะไม่มีการรดน้ำในวันนี้ ซึ่งน่าจะตรงกับที่มีฝนตกตอนกลางคืนที่ผ่านมาสังเกตจาก ความชื้นสัมพัทธ์ในตอนกลางคืนที่สูงมากๆ อยู่ที่ประมาณ 98-99 เปอร์เซนต์
ในวันที่ 8 กันยายน 2558 วันนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่ที่เวลาประมาณ 13.30 น. เป็นรูปแบบของความชื้นที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คือ ความชื้นสัมพัทธ์ในโรงเรือนเริ่มเพิ่ม ตอนเวลาประมาณ 13.30 น. จากนั้นครึ่งชั่วโมงความชื้นภายนอกโรงเรือนถึงได้เพิ่มขึ้นตาม จะบอกว่าเพิ่มจากฝนตกก็ไม่น่าใช่ ถ้าเกิดจากฝนควรจะเพิ่มขึ้นพร้อมกันทั้งนอกและในโรงเรือน จากกราฟรูปนี้ทางทีมงานสงสัยว่าน่าจะเกิดจากการรดน้ำของพี่แอ๋มที่เมื่อรดน้ำก้อนเห็ดเสร็จแล้วน่าจะทำการรดน้ำรอบๆ โรงเรือนต่อ แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น ในส่วนนี้เราจะกลับไปถามพี่แอ๋มอีกครั้งครับ
มาต่อกันที่วันที่ 9 กันยายน 2558 จากกราฟจะเห็นได้ว่าน่าจะไม่มีการรดน้ำในโรงเรือนในวันนี้ เพราะไม่มีการเพิ่มของความชื้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่วันนี้เราได้เห็นประสิทธิภาพของ "คา" ตอนเวลา 17.00 น. ที่อุณหภูมิภายนอกโรงเรือนอยู่ที่ 40 กว่าองศาเซียส!!! ทำไมมันร้อนแบบนั้นเนี้ย แต่ภายในโรงเรือนสามารถรักษาอุณหภูมิไว้ได้ที่ 30 องศาเซลเซียสนิดๆ ต่างกันถึง 10 องศาระหว่างในและนอกโรงเรือน
วันที่ 10 กันยายน 2558 เป็นวันสุดท้ายที่เครื่องสามารถบันทึกข้อมูลได้ตลอดทั้งวันมีลักษณะของการรดน้ำคือความชื้นในโรงเรือนเพิ่มก่อนด้านนอกโรงเรือนอยู่ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน คือเวลา 10.00น. 11.00น. 13.00น. ตามลำดับ และเป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นประสิทธิภาพของคาที่สามารถรักษาอุหณภูมิโดยความต่างระหว่างอุณหภูมินอกในสูงสุดอยู่ที่เวลา 17.00 น. ด้านนอกอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส ขณะที่ด้านในโรงเรือนอยู่ที่ 28 องศาเซลเซียส ต่างกันถึง 12 องศาเซลเซียส!! และในเวลาเดียวกันนี้เองความชื้นสัมพัทธ์ในและนอกโรงเรือนต่างกันถึง 35% คือในโรงเรือนอยู่ที่ 77% ส่วนนอกโรงเรือนอยู่ที่ 42%
เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นประสิทธิภาพของวัสดุจากธรรมชาติ "คา" ที่สามารถรักษาอุณหภูมิและความชื้นได้เป็นอย่างดี ในการเก็บข้อมูลครั้งนี้ขอขอบคุณปรีชาฟาร์มที่ได้ให้เราโอกาสเราทั้งการเข้าไปสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลของโรงเรือน ถ้ามีโอกาศต้องขอรบกวนพี่แอ๋มเข้าไปเก็บข้อมูลของโรงเรือนกึ่งถาวรอีกครั้งหนึ่ง ในวันนี้ขอขอบคุณพี่แอ๋มเจ้าของปรีชาฟาร์มอีกครั้งครับ ส่วนครั้งต่อไปเราจะไปได้เก็บข้อมูลโรงเรือนแบบใด หรือท่านผู้ชมอยากดูข้อมูลโรงเรือนแบบใดสามารถแนะนำเข้ามากันได้ที่
www.facebook.com/hughedfarm แล้วพบกันในครั้งต่อไปครับ สวัสดีครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น